ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันจันทร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ปลุกจิตสำนึก : กาพย์สุรางคนางค์๒๘



ปลุกจิตสำนึก : กาพย์สุรางคนางค์๒๘

    .....................................นกเขา ขันคู
(นก)อีแพรด ร้องสู้.................เสียงพรู ไพรสณฑ์
ฟ้าสาง วันนี้..........................เมฆพี นภดล
อากาศ อลวน........................จนยาก เข้าใจ

    ......................................แต่ยัง มิ(ยาก)เท่า
จิตของ คนเรา.......................(เอาแต่)เร่าร้อน-อ่อนไหว
ขาดความ สำนึก....................รำลึก รู้ใน
(ความ)ถูกต้อง ถ่องไตร่-..........ตรองให้ สำคัญ

    .......................................(ความ)มีจิต สำนึก
หาใช่ ให้ตรึก.........................ก็ผนึก ลึกผัน
ผู้ไม่ ศึกษา............................จรรยา ศีลธรรม์
ศรัทธา กุศลกรรม์....................อย่าฝัน มั่นมี

    ........................................แม้จบ ปริญญา
ระบบ ศึกษา............................โลกา วิถี
ก็ใช่ ว่าจะ...............................มนัส ทัศนีย์(ทัศนีย์=งาม)
หนำซ้ำ ต่ำฤดี..........................ราคี คณนา

    .........................................ศีลธรรม สำนึก
มโนธรรม นำตรึก.......................ตกผลึก พิษฐาน์
ดื่มด่ำ ความดี............................งามมี มนสิการ์(มนสิการ=การกำหนดไว้ในใจ)
เพียรพร่ำ นำพา.........................หทยา ประไพ(หทย-=หัวใจ)

    ..........................................สร้างจิต สำนึก
ศีลธรรม ล้ำลึก...........................ผนึก นิสัย
สำนึก ต้องมี(เสียก่อน).................ฤดีจึง ปลุกได้
(สำนึก)ว่างเปล่า ปลุกไป..............(ก็)ไร้พบ ประสบพานฯ

๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

รู้เท่าไม่ถึงการณ์ : กลอนแปด



รู้เท่าไม่ถึงการณ์ : กลอนแปด

    ประกาศเตือน เขื่อนใหญ่ แทบไร้น้ำ...............แลแนะนำ ประหยัด หัดใช้สอย
เป็นโอกาส ของเหล่า คนเฝ้าคอย......................แส่ทยอย เสนอเขื่อน สร้างเกลื่อนที

    อ้างว่าจัก กักเก็บ น้ำได้มาก..........................คลายลำบาก ปากท้อง ป่าวป้องถี่
แต่สงสัย เขื่อนเก่า เท่าที่มี................................ช่วยตอบที ไม่มีน้ำ นั้นทำไม?

    ก็รู้อยู่ เต็มอก (เพราะ)บกพร่องป่า...................ยังจะมา สร้างเขื่อน เบือนสาไถย
ฝนมิตก เพราะป่า วอดประลัย.............................สร้างเขื่อน(ต้อง)ใช้ ผืนป่า เซ่นราคี

    เรียน-จำได้ ยังไม่ ใช่"ความรู้".........................ต้องเข้าใจ ไปสู่ อุระศรี
นำความรู้ มุใช้ ในทางดี.....................................จึงจะมี "ความรู้" อยู่แท้จริง

    ผู้หลงตน ล้นรู้ มักสู่คิด...................................ทำทุจริต มิจฉา ชั่วช้าสิ่ง
ถูกจับได้ ไพล่บอก คำกลอกกลิ้ง..........................ว่าตนยิ่ง รู้เท่า ไม่ถึงการณ์

    อกุศล กลเจต เป็นเหตุให้................................คนทั่วไป ทุจริต พิษฐาน
บทลงโทษ กฎเด่น เป็นหลักดาล..........................ครุ่นคิดอ่าน เกรงกลัว ผลชั่วทำ

    กฎแห่งกรรม คำพูด ไร้ยุติ................................โจรจึงมิ เกรงบาป หยาบถลำ
ความบกพร่อง ของฝ่าย ยุติธรรม...........................ยิ่งชี้นำ (เชิญ)ทำชั่ว เกิดทั่วไป

    มิยับยั้ง ชั่งจิต ทำผิดข้อง..................................ยังเป็นช่อง ทางโฉด โทษหลั่งไหล
การเป็นคน กมลทราม ทำตามใจ............................เภทผลักไส หลายคน ทุกข์ท้นเองฯ

๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

โคราชแล้ง คาดเขื่อนลำตะคอง มีน้ำใช้ได้อีกแค่ 2 เดือน

วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ด้อยพัฒนาเพราะผู้ใหญ่ใจเด็ก : กลอนหก



ด้อยพัฒนาเพราะผู้ใหญ่ใจเด็ก : กลอนหก

    เห็นร่างกาย เหมือนใหญ่โต............ทำอวดโอ้ พูดโอหัง
ฐานะดี มีสตังค์................................พละกำลัง ช่างแข็งแรง

    หลงตน(ว่า)รู้ เป็นผู้ใหญ่.................อายุวัย ไกรกำแหง
อวิชชา หาครางแคลง........................ค่านิยมแฝง เยาวชน

    ทำอะไร ตามใจเจต.......................ไม่หาเหตุ ไม่เห็นผล
คอยคิดแต่ เห็นแก่ตน.........................ผู้อื่นคน มิสนใจ

    มิซื่อสัตย์ สุจริต............................มักพลาดผิด พินิจฉัย
(เพราะ)อารมณ์เอา เข้าโหมให้.............จิตอ่อนไหว ไม่มั่นคง

    ถึงจะผ่าน การศึกษา.......................แต่ชีวา ช่างใหลหลง
ความคิดเขลา เมางวยงง......................งมงายส่ง ดิบ(เถื่อน)ดงดอย

    มิประสา ในมารยาท.......................พาทีพาท อุบาทว์ถ่อย
ชอบคิดเล็ก และคิดน้อย.......................พัฒนาด้อย มิปล่อยวาง

    ปราศจากความ รับผิดชอบ................มักลักลอบ ปัญหาสร้าง
ชอบละเล่น เป็นหนทาง.........................จึงอยู่อย่าง ร้างพฤทธี(พฤทธิ์=ความเจริญ)

    ความเป็นเด็ก ปัจเจกชน....................ร่วมส่งผล ชาติวิถี
ด้อยพัฒนา ล้นราคี...............................อยู่ทุกวี่ ทุกวันเอยฯ

๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

มิใช่อัศจรรย์ : กาพย์ยานี๑๑



มิใช่อัศจรรย์ : กาพย์ยานี๑๑

    ปีนี้คงหนาวยาวนาน...................จากที่ปีผ่าน
แทบไม่พานพบประสบหนาว

    แสงสุรีย์สว่างพร่างพราว.................อบอุ่นละมุนราว
อ้อมกอดแผ่วเบาผ่าวผิว

    ลมพัดใบไม้ไหวปลิว.................ก้านอ่อนผ่อนพลิ้ว
หวีดหวิวเสียงลมโหมหวน

    กุสุมาลย์สังสรรค์รัญจวน................ผลิดอกออกถ้วน
เชิญชวนภุมรินบินวน

    เมื่อใจใสสุกกุศล..................สุทธากระมล
ส่องยลสัจจะประจักษ์จินต์

    สัมมาทิฏฐินิจสิน................ปราศจากมลทิน
ชีวินดำเนินเพลินพิไล

    เมื่อเกิดสุจริตจิตใจ.................พิจารณ์การณ์ใด
ย่อมไร้ราคีวีรคำ

    ซื่อสัตย์อัชฌาอุปถัมภ์.................เกื้อหนุนคุณธรรม
ย่อมทำให้มีปรีชา

    ประกอบไปด้วยปัญญา.................ฝ่าฟันปัญหา
แน่แน่วแกล้วกล้าประสบสันติ์

    เอิบอาบราบรื่นคืนวัน.................มล้างโทษหมดทัณฑ์
มิใช่อัศจรรย์อันใดฯ

๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

แรงกรรม : กลอนคติสอนใจ



แรงกรรม : กลอนคติสอนใจ

    ก็เหมือน กับที่.......................โลกนี้ มีแรง โน้มถ่วง
สิ่งของ ทั้งปวง...........................มิล่วง หลุดพ้น ไปไหน
โยนหิน ขึ้นฟ้า............................ย่อมตก ลงมา ทุกคราไป
ธรรมชาติ ยิ่งใหญ่........................กฎใช้ ได้ทั้ง จักรวาล

    การเด็ด ดอกไม้......................กระทบ ไปไกล ถึงดวงดาว*
เส้นทาง กว้างยาว........................ยังสาว ไปถึง บึ้งสถาน
กฎแห่ง ชีวิต...............................วิจิตร ยิ่งกว่า อลังการ
คอยดล บันดาล...........................ตามการ กระทำ บำเพ็ญ

    ทำดี ได้ดี...............................ไม่มี ทางแผลง แปลงเปลี่ยน
ทำชั่ว ชั่วเวียน..............................ผลลัพธ์ สรรพเลียน รับเข็ญ
คือกฎ ธรรมชาติ............................คุมทุก ชีวาตม์ ผงาดเป็น
ไม่มี ยกเว้น..................................แค่เร้น ครรลอง คล่องตา

    ก่อนทำ กรรมใด........................ครวญใคร่ ให้ดี เสียก่อน
ว่าใคร เดือดร้อน............................(และ)เทียบเคียง คำสอน ศาสนา
ใส่ใจ ถวิล....................................ระบิล ศีลธรรม์ จรรยา
ดำเนิน ชีวา...................................สุโข โสภา สาธร

    ชะตา ชีวิต................................มิคิด อิดหนา ระอาใจ
แรงกรรม ทำไกร.............................ทำให้ ได้-เป็น เห็นสะท้อน
วัฏฏะ สงสาร..................................ยาวนาน ปานว่า ถาวร
กระมล โอนอ่อน..............................อย่าร้อน รุ่มใจ ไปเลยฯ

๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

*ทฤษฎีความอลวน : Chaos theory

วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เดือดร้อน-วุ่นวายไปหมด : กลอนเจ็ด



เดือดร้อน-วุ่นวายไปหมด : กลอนเจ็ด

    พ่อค้า  แม่ขาย ส่ายหน้าบ่น.................ขาดคน ซื้อของ ต้องขื่นเข็ญ
เศรษฐกิจ ไม่ดี ปีนี้เป็น...........................ยากเย็น กว่าก่อน ย้อนผ่านมา

    ยังดี ที่(ราคา)น้ำ มันลดหน่อย...............อย่างอื่น ยังลอย ตาลอยหน้า
ไม่เห็น จะหด ลดราคา............................ทำ(ให้)ค่า ครองชีพ ถีบตัวดัน

    หมดสิ้น ทางออก นอกจากประหยัด........สารพัด งานผอง ต้องขยัน
เศรษฐกิจ กลับฟื้น ยื่นยาววัน....................วิกฤติกัน ทั่วหล้า ประชาชี

    แสวงหา บ้าหวย หวังรวยลัด..................เครื่องวัด ขัดสน กมลศีล์
พึ่งไส ยศาสตร์ ประหลาดปรีดิ์...................บ่งชี้ สติตัน ปัญญาเบา

    เครือข่าย ขายยา บ้าระบาด.....................อนาถ เยาวชน ล้นความเขลา
เรื่องอ่าน การเขียน มิเพียรเอา....................มัวเมา มารยา ค่านิยม

    ปัญหา ตัดไม้ ทำลายป่า.........................หาได้ ลดรา (กลับยิ่ง)เพิ่มสะสม
พวกโจร ผู้ร้าย ภัยสังคม............................ระดม อาละวาด ไม่ขาดครา

    สภาวะ โลกร้อน สะท้อนหนัก...................เขื่อนหลัก น้ำลด จะหมด...ผวา
น้ำกิน น้ำใช้ ในนครา.................................แย่งกัน กับบรรดา เกษตรกร

    พระเถร เดนถ่อย พร้อยแผกต่าง................ร่วมสร้าง ร่วมสรรค์ ปัญหาร้อน
เมื่อธรรม (มะ)วินัย ไม่อาทร.........................เก่งแต่  สั่งสอน หอนเห่าเอยฯ

วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เส้นทางมิตรภาพ : กลอนจรรโลงใจ



เส้นทางมิตรภาพ : กลอนจรรโลงใจ

    เส้นทาง ที่มอง ไม่เห็น......................เป็นสิ่ง พาเรา มาพบกัน
ร่วมวิถี ใช้ชีวัน.....................................พบปะ สังสรรค์ สัมพันธ์สม

    บางครั้ง ก็ยัง ข้องขัด.........................บ่อยครั้ง วัฒนะ อภิรมย์
บางคืน ก็อาจ ขื่นขม..............................บ่อยวัน ชื่นชม อุรา

    ความหวังดี มีแก่กัน............................อดทน อดกลั้น ร่วมฟันฝ่า
สามัคคี เสมอมา....................................เสมือนสัญญา เราจะรักกัน

    ได้ร่วมทุกข์ ร่วมสุขี.............................ผจญโลกีย์ ที่แปรผัน
ประจัญ ปัญหา สารพัน............................แบ่งปัน บันเทิง ระเริงใจ

    บางที มีบ้าง ห่างเหิน...........................ไม่กี่กาล นานเกิน คืนใหม่
ต่างถ้อยที ถ้อยอาศัย...............................ห่วงใย ในกัน และกานต์(กานต์=เป็นที่รัก)

    เส้นทาง ที่พา เรามาพบ.........................ยังเป็น ทางลบ สิ้นสบสาน
ร่วมชีวี มียาวนาน.....................................เมื่อถึงกาล ก็พลัน พรากไกล

    การพบกัน นั้นเปี่ยมสุข...........................แม้ลางที มีทุกข์ ไม่หวั่นไหว
จากกัน นั้นช่าง อาลัย...............................แต่มิเสียใจ ที่ได้ เจอกัน

    เมื่อเป็น ชะตา ลิขิต...............................ไม่ควร ยึดติด จิตยึดมั่น
หากเข้าใจ ในสัจธรรม์................................หนักแน่น แม่นมั่น ทานฤทัย

    ขอจดจำ มิตรภาพ..................................จนตราบ ชีวา จะหาไม่
ตราตรึง ซึ้งอยู่ คู่หัวใจ................................จนกว่า ทุกสิ่งไซร้ กลายลืมเลือนฯ

๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

คนไทยจงเข้าใจพระ : กลอนแปด



คนไทยจงเข้าใจพระ : กลอนแปด

    พระต้อง(ยาก)จน คนไทย เข้าใจเถิด.............ทรัพย์ประเสริฐ เทิดถือ คือมรรคผล
ลาภสักการ ลานสิ้น หยุดดิ้นรน.........................เพื่อหลุดพ้น ทุกขเภท กิเลสภาร

    บิณฑบาต มาดเพียง เลี้ยงชีวิต....................มิควรคิด ติดรส ชาติอาหาร
กินเพื่ออยู่ อยู่เพื่อ อุดมการณ์...........................อุปาทาน ตัณหา ขจัดไกล

    เพื่อบรรเทา หนาว-ฝน-ร้อนรนเบียด...............(หา)ใช่ละเมียด เลิศอยู่ หรูหราศรัย(ศรัย=อาศัย)
สะสมทรัพย์ สมบัติ วัตถุใด...............................นั่นไม่ใช่ หน้าที่ ภิกษุทำ

    ผ้าจีวร เพื่อบัง สังขารปิด..............................อย่าวิจิตร พิสดาร ขานเลิศล้ำ
ดูแลง่าย ใช้ง่าย ไม่ระกำ..................................เพื่ออุปถัมภ์ สมณเพศ เจตนา

    พักสถาน อันเงียบ สงัดคน.............................สละพ้น มลทิน ศีลรักษา
สมถะ-วิปัสสนะ ภาวนา.....................................เพ่งจิตรา สมาธิ วิมุตติปอง(จิตร=จิต)

    ไร้สาระ สมณะ บรรดาศักดิ์.............................แต่งล่อดัก มักได้ หมายมัวหมอง
ผลประโยชน์ ยศตำแหน่ง แย่งปกครอง.................ผิดครรลอง ครองธรรม คำวินัย

    เอาแนวคิด ของโลกย์ ซุกอกพระ.....................มีแต่จะ สกปรก รกสาไถย
เอาความอยาก มากมี ชี้นำใจ..............................พระจึงเป็น เดนไพร่ จัญไรพาล

    โยมต้องรู้ หน้าที่ มีต่อพระ...............................พระต้องมุ่ง สมถะ มาตรฐาน(สมถะ=มักน้อย)
ไม่ทำตาม หน้าที่ สิสามานย์................................เสมือนการ วินาศ ศาสนา(พุทธ)เอยฯ

๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

หลอกตัวเอง : กลอนคติสอนใจ



หลอกตัวเอง : กลอนคติสอนใจ

    ไดอารี่ เล่มนี้ มีหลายหน้า...................(ที่)ไร้ร่องรอย ขีดฆ่า ปากกาเขียน
คงปล่อยไว้ ว่างเปล่า เรื่องราวเตียน...........แม้คราวเปลี่ยน เล่มใหม่ คล้าย(ความ)คิดแคลน

    ที่ปล่อยว่าง บางวัน ใช่คร้านลิขิต...........แต่(เพราะ)ชีวิต วันนั้น อัดอั้นแสน
ไม่อยากจด อยากจำ ทำลืมแทน................เสมือนแม้น ไม่มี วันนี้เลย

    ไม่อยากแต่ง เรื่องใหม่ ไว้ลวงหลอก.......ไม่อยากบอก เรื่องจริง สิ่งเปิดเผย
ไม่ต้องการ พานพบ ประสบเลย..................ไม่อยากเอ่ย ถึงมัน แม้ครันเทียว

    สิ่งที่เกิด ขึ้นแล้ เกินแก้ไข.....................ดีแต่ปล่อย มันไป ไม่แลเหลียว
มิใช่ว่า โทษมี เสียทีเดียว.........................แค่เศษเสี้ยว เคี่ยวเข็ญ (อาจ)เป็นบทเรียน

    (ว่า)สิ่งที่ดี ที่สุด คือสุจริต......................อย่าทำผิด มิจฉา มนาเสถียร
ถึงลำบาก ยากพ้อง ต้องพากเพียร...............อย่าริเลียน ทุจริต ผิดศีลธรรม

    มิใช่ทราม โฉดช้า (จง)อภัยให้................แลมิใช่ ฉลฉ้อ ก่อซากซ้ำ
เลิศพ้นข้อ ครหา คืออย่าทำ........................จะไม่มา ระกำ ร่ำลืมเลือน

    เรื่องลางสิ่ง ยิ่งลืม ยิ่งกลับจำ..................ยิ่งระยำ ยิ่งจำแม่น ยากแม้นเหมือน
เว้นเขียนใน ไดอารี่ มิแชเชือน.....................ยังติดเตือน เผื่อนจิต อยู่นิตยา

    ไม่มีใคร ล่วงรู้ สู้กลับกลอก.....................ไม่อยากบอก หลอกเขา เอาเถิดหนา
แต่เรื่องหลอก ตัวเอง เกรงปัญญา................ไม่มีใคร ไหนหน้า สามารถเอยฯ

๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ศักยภาพของคน : กลอนคติสอนใจ



ศักยภาพของคน : กลอนคติสอนใจ

    หากสิ คิดว่า................ราคะ โทสะ โมหะ
คือลัก ษณะ.....................ธรรมชาติ (จึง)สมเหตุ สมผล
สมควร ยอมรับ.................อย่าขับ ไสไป ให้พ้น
มิหนำ ซ้ำยล....................ว่างาม วิมล กลไก

    ก็ต้อง ถามกลับ............คุณสมบัติ สำหรับ มนุษย์
ธรรมดา ประดุจ.................สัตว์ผุด เกิดมา ใช่ไหม?
คนเรา เกิดมา...................หรือมี เสื้อผ้า สวมใส่?
โลกนี้ มีใคร......................เปลี่ยนให้ ใกล้บรร ลัยลาญ?

    คนมี ความคิด...............ประดิษฐ์ วิทยะ สรรพสิ่ง
ค้นหา ความจริง.................มินิ่ง นอนใจ ในแก่นสาร
คนมี ทักษะ.......................พัฒนะ ระดับ อัประมาณ
เพียงแต่ ต้องการ................ต้องดัด สันดาน พาลมี

    เหมือนกับ พ่อแม่............คนแก่ ต้องสอน ลูกหลาน
ให้เท่า ทันการณ์.................ให้อ่าน ให้เขียน เพียรศรี
ต้องคอย เคี่ยวเข็ญ..............สอนเด็ก ให้เป็น คนดี
ไม่ปล่อย ถ่อยปรี่.................เป็นคน อัปรีย์ ริยำ

    ศักย ภาพคน..................หากสน ใจใน สุจริต
เมื่อมี ชีวิต..........................เพ่งคิด หาความ เลิศล้ำ
ลดละ สถุล.........................เอื้อเฟื้อ เกื้อหนุน คุณธรรม
กิเลส เฉทร่ำ.......................สามารถ กำจัด สะอาดเอยฯ

๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ชีวิตสวยงาม : กาพย์สุรางคนางค์๒๘



ชีวิตสวยงาม : กาพย์สุรางคนางค์๒๘

    ................................ชีวี สิสวย
ต้องประ กอบด้วย..............ศีลธรรม นำพา
รู้จัก รักดี..........................ธรรมมี สิกขา
กระทำ สัมมา....................อุตสาห์ กระมล

    ..................................รักษา หน้าที่
ทำให้ เต็มที่......................อย่าริ ฉ้อฉล
รู้จัก เลือกคบ....................เคารพ บุคคล
ก่อร่าง สร้างตน..................หนทาง พร่างเพลิน

    ..................................ดูแล ญาติมิตร
ใส่ใจ ใกล้ชิด.....................สัมพันธ์-สรรเสริญ
ร่วมด้วย ช่วยเหลือ..............เมื่อภัย มาเผชิญ
มโนธรรม ดำเนิน................มิเลิน เล่อใจ

    ..................................อบาย (ยะ)มุข
คือทาง สร้างทุกข์...............อย่าขลุก สาไถย
ความเชื่อ โฉดเขลา.............มิเมา มัวไคล
สถุล คุณไสย.....................เหลวไหล ไม่ดี

    ...................................เงินทอง ต้องขยัน
เพียรมา หาหมั่น..................กวดขัน บัญชี
รู้จัก เก็บออม......................ถนอม พร้อมศรี
ฐานะ จะมี..........................สุขี สบาย

    ...................................และอย่า ประมาท
กฎ(แห่ง)กรรม ธรรมชาติ.......ชีวาตม์ มาดหมาย
ทำดี ได้ดี...........................เภท-ผี มิระคาย
เกษมสันติ์ (จวบ)บั้นปลาย......ขวนขวาย เถิดชนฯ

๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ไม่มีโลกใหม่ : กาพย์สุรางคนางค์๓๒



ไม่มีโลกใหม่ : กาพย์สุรางคนางค์๓๒

    ฝนชิง ทิ้งช่วง.......................เลยล่วง ฤดู
มีนาฯ มาสู่...............................พสุธา ระแหง
ระกำ ลำบาก............................ข้าวยาก หมากแพง
หลายปี ที่แล้ง..........................แก่งแย่ง อยู่กิน

    เศรษฐกิจ พิษภัย...................คู่ไทย สมัยนี้
เป็นปาน นานปี..........................ทีท่า หาสิ้น
ปัญหา ทุจริต.............................วิกฤติแกน แผ่นดิน
เกิดกล้า ชาชิน...........................จินดา สาธารณ์

    ศีลธรรม ทรามเสื่อม................จนเอือม ระอา
พุทธศาสน์ ศรัทธา......................ลดรา มหาศาล
ผู้หลัก ผู้ใหญ่.............................ใคร่หา สามานย์
พลอยผูก ลูกหลาน......................อันธพาล ดาลเดน

    บ้านเมือง วิปริต......................ดวงจิต วิปัสสนา
บังเกิด ปัญญา............................สัจจา ประจักษ์เห็น
ต้องไม่ เสแสร้ง...........................เปลี่ยนแปลง ประเด็น
กลบเกลื่อน เหมือนเป็น.................เช่นไร้ ไพรี

    ใส่ใจ จดจ่อ............................อย่ารอ เล่นมุ่ง
ผลัดวัน ประกันพรุ่ง.......................ยุ่งหลาย หน่ายหนี
(ปัญหา)หาใช่ เพิ่งเริ่ม...................หากแต่ เหิมทวี
โลกใหม่ ไม่มี..............................ที่ให้อยู่ รู้เทอญฯ

๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พรสวรรค์ : โคลงสี่สุภาพ



พรสวรรค์ : โคลงสี่สุภาพ

. เมื่อเกิดมาก็ไร้.....................ปีก-ขน
อาศัยอยู่ในชล........................เชี่ยวน้ำ
หากินสินธุวน..........................เวียนว่าย
ไม่เคยเลยล่วงล้ำ.....................แหล่งเชื้อเผ่าพันธุ์ฯ

. ชำนาญการใช้ครีบ................โบกหาง
ชโลทรคือหนทาง....................ถ่องแท้
สุขสบายมิวายวาง....................เป็นอยู่
มิสู่เยี่ยงสกุนต์แล้.....................ท่องฟ้าสราญฯ(สกุนต์=นก)

. การเป็นคนก็คล้าย................คลึงครวญ
ต่างคนต่างชาญชวน.................ชิดค้น
คือ "ทักษะ" กระบวน................กำเนิด
เกิดมาก็มีล้น...........................เรียกซ้อง "พรสวรรค์"ฯ

. ลางคนร่างกายนั้น.................แกร่งแข็ง
เล่นกีฬาทะมัดทะแมง................ก้าวหน้า
ลางคนขืนผาดแผลง..................เคี่ยวฝึก
ร่างกายสึกหรอล้า.....................ป่วยไข้ไม่สบายฯ

. ลางคนช่างง่ายรู้....................เล่าเรียน
วิชาการอ่านเขียน......................เฟื่องฟุ้ง
ลางคนคร่ำพากเพียร..................เครียดเคร่ง
เร่งเท่าไรไม่ผุ้ง(พุ่ง)...................สมองช้าน่าหน่ายหนีฯ

. ถือสิ่งที่สอดคล้อง...................ทักษะ
เลือกสัมมาอาชีวะ......................รุ่งเรื้อง
งานอดิเรกอิสระ.........................ประกอบ
(ความ)ชอบสรรค์ผลงานเยื้อง.......ยอดสร้างสะอางเห็นฯ

. แต่เป็นคน ดี/ร้าย....................ใช่ "พรสวรรค์"
ธรรมารมณ์อุดมดัน......................จิตคล้อย
สัมมาทิฏฐิสรรค์..........................สุจริต
มิจฉาสติพร้อย............................ชั่วช้าประสงค์ฯ

๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ถึงเวลาเลือกทำบุญ : กลอนหก

ม็อบพระลุยล็อกคอทหาร ฉุนไม่ให้เข้า'พุทธมณฑล  http://www.dailynews.co.th/regional/379791                                                     


ถึงเวลาเลือกทำบุญ : กลอนหก

    โบราณเว๋ย เคยสอนว่า....................ใส่บาตรรอย่า เลือกพระสงฆ์
มุ่งสอนให้ ไม่พะวง..............................กิเลสหลง ปลงรัก-ชัง

    เป็นอุบาย ใช้ดัดจิต..........................เลิกยึดติด มิจฉาตั้ง
อกุศล ขับพ้นดัง..................................งามเปล่งปลั่ง ทั้งหัวใจ

    แต่บัดนี้ มากภิกษุ............................บ่ายบรรลุ กุศลไม่
บวชเข้ามา เพื่อสาไถย..........................ผ้าเหลืองใช้ หาอยู่กิน

    หัวขบวน ล้วนกิเลส..........................ก่ออาเพศ เป็นนิจสิน
หลงลาภ-ยศ คดโฉดชิน........................พุทธระบิล ไม่ยินดี

    พฤติกรรม พาลต่ำช้า.........................แน่นตัณหา มลายศีล์
ภาพเห็นชัด มัดอลัชชี............................กุ๊ยอัปรีย์ อันธพาล

    ทำบุญด้วย เท่า(กับ)ช่วยหนุน..............เดนสถุล ให้อาจหาญ
ยังพิทักษ์ เท่าดักดาน.............................ทำลายลาญ ธรรมวินัย

    เลือกทำบุญ สุนทานเถิด.....................เมื่อมาเกิด ร่วมสมัย
อันธพาล เลวจัญไร................................แอบอาศัย ใต้ร่มโพธิ์

    ส่งเสริมพระ ปฏิบัติชอบ......................ไม่น้อมนอบ พาลโทโส
พุทธศาสนา จะเติบโต............................คู่โลกา สาธุเทอญฯ

๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

บุกรวบคากุฏิพระเอเย่นยา ผ้าเหลืองบังหน้าค้าผ่านเฟซฯ 

เปิดคลิปเด็ดมัดโล้นฉาวกามสูงอายุ เป็นพระชั้นผู้ใหญ่ระดับเจ้าคณะจังหวัด เสพสังวาสกับสีกาในห้องลับอย่างเมามันส์ บำเรอกามกันอย่างสนุก โดยไม่อายว่าผิดธรรมวินัย
http://www.dailynews.co.th/regional/379021

เสื่อมจริง! เจ้าอาวาสวัดลำปางระดับ นธ.เอก-ปธ.9-ปริญญาเอก นั่งดูหนังโป๊ (ชมคลิป)

วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ความรักไม่ใช่ของทุกคน : กาพย์ยานี๑๑



ความรักไม่ใช่ของทุกคน : กาพย์ยานี๑๑

    เห็นใคร เขาได้รัก...................คิดใฝ่ฝัก ริรักฝัน
คนเรา น้อย(นักที่จะ)เท่าทัน..........สัจจะอัน สืบนานนม

    รักคือ สิ่งจำเพาะ....................ควรจงเจาะ (เพียง)ผู้เหมาะสม
ดวงฤดี ที่อุดม............................คุณสมบัติ เปี่ยมพัฒนา

    เข้าใจ ในความรัก...................พร้อมสมัคร พิทักษา
ซื่อตรง ทรงอุรา..........................และสามารถ จัดการกมล

    ชอบ"ให้" มิใช่"เอา"................เพื่อสุข(ของ)เขา เนาสถล
มิแส่ เห็นแก่ตน...........................เขาทุกข์ท้น มิสนใจ

    อิสระ คอยสนอง......................มิใช่"ครอง จ้องจับ"ไว้
(การ)บังคับ ข่มเหงใคร.................ขืนกายใจ หาใช่(ความ)รัก

    ต้องไม่ หมายมอมเมา...............จูงจมูก/เฝ้า ตามใจจัก
ชี้ทาง กระจ่างทัก.........................ชักชวนเชิญ เจริญชีวิน

    ดูแล มิแชเชือน........................อย่าบิดเบือน เป็นทรัพย์สิน(ของตน)
หากเขา ใคร่โบยบิน......................อย่าผินผลัก กักขังคุม

    มีรัก มุ่งสุขใจ...........................หามิใช่ เพื่อกลัดกลุ้ม
กังวล จน กรม รุม.........................อย่าซุ่มรัก หนักใจเลยฯ(กรม=ตรม)

๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

สัญชาตญาณกับศีลธรรม : กลอนคติสอนใจ



สัญชาตญาณกับศีลธรรม : กลอนคติสอนใจ

    สัญชาต (ตะ)ญาณ.................(เป็น)พื้นฐาน สรรพสัตว์ ปัจจัย
ก่อกรรม ทำให้..........................ได้เป็น ได้สืบ พงศา
เป็นแรง ขับดัน..........................เป็นคัน บังคับ บัญชา
อยู่คู่ ชีวา.................................อยู่คู่ โลกา ตลอดไป

    (เมื่อ)ไม่อาจ ขัดขืน...............ไม่ฝืน สัญชาต (ตะ)ญาณ
กมล สันดาน............................ย่อมปาน สัตว์ป่า อัชฌาศัย
กระเสือก กระสน.......................ด้วยผล กิเลส เจตใจ
ตัณหา พาให้............................หลงใหล ในห้วง โลกีย์

    ธรรมชาติ สัตว์ป่า...................ประจักษ์ สายตา สาธารณ์
ประหัต ประหาร.........................ประจาน จิตสัตว์ บัดสี
ขาดการ ควบคุม........................กฎกุม คุ้มครอง ฤดี
ดำเนิน ชีวี................................เสรี ไม่มี ศีลธรรม

    สังเกต สังคม........................(ที่)สั่งสม ศึกษา ประสบการณ์
ปราชญา อาจารย์.......................ให้การ อบรม อุปถัมภ์
มวลชน หมู่มาก..........................หากชู บูชา กระทำ
ผลย่อม น้อมนำ..........................เลิศล้ำ สันติ นิรมัย

    แต่บาง สังคม.........................โสมม สมสุด ทุจริต
มืดดำ ความคิด...........................วิปริต จิตรา สาไถย(จิตร=ใจ)
(ย่อม)บังเกิด กลี.........................ทวี เทวษ เภทภัย
ตกระกำ ร่ำไห้.............................ท้นทุกข์ สุขไร้ วายปราณฯ

๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙

เนื่องในวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์
ตามที่มีกระแสข่าวเรื่องSex ขอขยายความเล็กน้อยว่า
Sex เป็นสัญชาตญาณ แต่การมี Sex เฉพาะกับสามีภรรยาของตนเป็นศีลธรรม

วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ดอกกุหลาบกับดอกหญ้า : กาพย์สุรางคนางค์๒๘



ดอกกุหลาบกับดอกหญ้า : กาพย์สุรางคนางค์๒๘

    ...................................ด้วยศักดิ์ ด้วยศรี
กุหลาบ ย่อมมี.....................มูลค่า สูงส่ง
ประดอย ถ้อยคำ..................เลิศล้ำ ธำรง
ประชา ประสงค์...................หลงรัก ปักใจ

    ...................................ขาดผู้ บูชา
บรรดา ดอกหญ้า.................มูลค่า เคียงไร้
ปราศจาก หลากคน..............สนอก สนใจ
เลื่อนลอย ปล่อยให้..............(เป็น)ไปตาม ยะถากรรม

    ....................................กุหลาบ จับวาง
สวยศิลป์ จินต์สร้าง...............อย่างดู หรูล้ำ
เพริศพี สีสด........................แทนทด "รัก"คำ
ประดิษฐ์ คิดทำ....................ชุ่มฉ่ำ ชีวี

    .....................................แต่เมื่อ เหี่ยวเฉา
ดีแต่ แค่เอา.........................พ้นตา ผละหนี
เพียงค่า ขยะ........................สกปรก สิ้นดี
ประโยชน์ ไม่มี......................ขยี้ย้ำ ทำลาย

    .....................................ดอกหญ้า สะอาง
(ตาม)ป่าเขา ลำเนาทาง...........สร้างความ งามสยาย
ลมพลิ้ว ปลิวร่อน....................โอนอ่อน ผ่อนคลาย
เกิดง่าย เป็นง่าย....................ไม่ต้อง ดูแล

    ......................................ประโยชน์ มากมี
ดอกหญ้า เหล่านี้....................ที่เก่า เฉาแก่
ทำเป็น ไม้กวาด.....................สะอาด สร้างแปร
บ้านช่อง ข้องแม้....................แต่พระ ราชวัง

    ......................................คุณค่า อย่าดู
แค่งาม/ทรามสู่......................เรียนรู้ ปลูกฝัง
คุณใด ไม่ก่อ.........................ส่อว่า น่าชัง
ปรากฎ สลดดัง......................ดอกไม้ ทั้งหลายเอยฯ

๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙