ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

อยากได้รับการยอมรับ : กลอนเปล่า



อยากได้รับการยอมรับ : กลอนเปล่า

๏   สังคม-โลก 
กว้างขวางมากกว่าพื้นที่ 
ที่ใครบางคนพยายามแทรกตัวเข้าไปหาที่ยืน

๏   ชีวิตคนเรา 
หากมัวแต่คิดถึงแต่การยอมรับจากคนอื่น
โดยเฉพาะจากทุกคน 
คงไม่มีใครสมหวัง และสงบสุขได้
 
๏   เพราะการยอมรับคนอื่น
เป็นสิ่งที่ให้กันได้ยาก 
อาจจะยากกว่าการให้ความช่วยเหลือ
เมื่อยามตกระกำลำบากด้วยซ้ำไป

๏   การไม่ยอมรับคนอื่น
คือพฤติกรรมธรรมดาของคน
ที่มักถือเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง


๏   การไม่ยอมรับคนอื่น
จึงเกิดขึ้นเสมอๆ
แม้แต่ภายในครอบครัว วงศาคณาญาติ
ที่ร่วมอยู่อาศัย
ภายใต้ชายคาเดียวกัน

๏   ชีวิตคนเราสั้นนัก
จะมัวเสียเวลาทำไม?
กับการเรียกร้องการยอมรับ
ว่า เราไม่แตกต่างจากใครๆ
ในสิ่งที่เราก็รู้อยู่แก่ใจ
ว่าคนเราทุกคน
ย่อมต่างก็มีสิ่งที่แตกต่าง

จากคนทั่วไป

๏   สู้เอาเวลาเหล่านั้น
ไปทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ชีวิตเรา
เอาความอยาก ที่ไม่มีวันเติมเต็มได้ 
เพราะต้องหลอกตัวเอง
และต้องรอคนอื่นหลอกตัวเขาด้วย
ไปทำสิ่งที่เกิดประโยชน์แก่สังคม-โลก
ซึ่งจะทำให้ตัวเรามีคุณค่า เป็นที่ยอมรับโดยไม่ต้องเรียกร้อง
และเป็นคุณค่า
ที่มีสารประโยชน์อย่างแท้จริง

๏   ไม่มีคนจิตใจเที่ยงธรรมคนใด
จะยกย่อง-ยอมรับ สิ่งที่ผิดครรลองคลองธรรม
ว่าถูกต้องได้หรอก
นอกเสียจากว่า
เขาจะละทิ้งจิตใจ
พ้นไปจากวิถีของความเที่ยงธรรม
 
๏   ปัญหาอันเกิดจากตัวเอง
แต่ผู้ที่มีจิตใจไร้ความเที่ยงธรรม
มักมัวเมาเอาแต่โทษโครงสร้างสังคม-กฎหมาย
ซึ่งเป็นสาเหตุ ที่ทำให้ไม่มีวันพบทางออกของปัญหา
จนกว่าจะปรับความคิด-จิตใจของตัวเอง
ให้ "เที่ยงตรง" เสียก่อน

๏   จิตใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความบริบูรณ์
ย่อมมีความพร้อมที่จะแบ่งปันความสุขแก่ผู้อื่น
ส่วนจิตใจที่บกพร่อง-กันดาร-ขาดแคลน-ว่างไร้
ย่อมมีแต่ความอยากจะได้ อยากจะเอา อย่างไม่สิ้นสุด
แม้พยายามเติมอะไรเข้าไป มากแค่ไหน
ก็จะไม่มีวันเต็ม

๏   จงเอาเวลาและจินตนาการ
เพื่อแสวงหาการยอมรับ
ไปปรับปรุงตัวเองให้มีความรู้ ความสามารถ รักษาคุณธรรม ความดีฯลฯ
อบรมจิตใจให้ประเสริฐล้ำเลิศมี
ทำชีวีให้ประสบกับความสำเร็จ
พัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่สมบูรณ์
ทั้งร่างกาย ความนึกคิดและจิตใจ

๏   ดีกว่าจะมัวเสียเวลา
ตั้งความปรารถนาในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
และไร้สารประโยชน์

๏   ใครที่มีความรู้สึกนึกคิด
ในครรลองของคุณธรรมความดี
จะยินดีให้การยอมรับเราเอง
ส่วนใครที่ไม่ยอมรับ
ก็อย่าไปเก็บมาใส่ใจ
ให้เป็นอกุศลมลทิน

๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น